การบำบัดรักษาด้วยคลื่น RF (Radio frequency technique)

RF หรือ Radio frequency technique คืออะไร?

RF เป็นเทคโนโลยีการรักษาด้วยคลื่นวิทยุ Radio Frequency โดยการส่งคลื่นวิทยุผ่านทะลุผิวชั้นบน เพื่อไปเพิ่มอุณหภูมิของผิวหนังชั้นลึก กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนรูปของพลังงานจากภายใน ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส โดยผิวหนังจะเกิดกลไกการเปลี่ยนแปลง คือ

1.ผิวหนังชั้นบนสุด Epidermis หรือหนังกำพร้า คลื่นวิทยุจะมีผลให้เชลล์หนังกำพร้าหลุดลอกไป ทำให้ผิวเรียบเนียน ขาว ใสขึ้น รอยดำใต้ตา ฝ้ากระจางลง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัวของเชลล์ผิวหนังเพิ่มขึ้น ทำให้รูขุมขนเล็กลง หลุมสิวตื้น รอยแผลเป็นจากสิวดีขึ้น

2.ผิวชั้นหนังแท้ Dermis คลื่นวิทยุRF จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น จะช่วยปรับสภาพผิวที่เคยหย่อนคล้อยให้กลับตึงกระชับยิ่งขึ้น

3.ผิวชั้นที่ลึก Subcutaneous fat หรือชั้นไขมันใต้ผิวหนัง  คลื่นวิทยุจะไปสลายไขมันให้ละลายเข้าไปสู่หลอดน้ำเหลือง ทำให้ไขมันบริเวณถุงใต้ตา ใต้หู ใต้คางลดลง รูปหน้าดูเรียวกระชับมากยิ่งขึ้น

RF มีประโยชน์อย่างไร?

1. RF facial lifting ยกกระชับผิวหน้า แก้ไขผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวหน้ากระชับ เต่งตึงยิ่งขึ้น

2. RF facial resurfacing การทำให้ผิวเนียน กระจ่างใส รูขุมขนเล็กลง

3. RF facial brightening การปรับสีผิวให้ขาวสว่างมากขึ้น

4. RF body firming ช่วยสลายไขมัน และกระชับสัดส่วน แก้ปัญหาเซลล์ลูไลท์

การทำ RF มีขั้นตอนอย่างไร?

  1. ขณะที่ทำRF จะรู้สึกอุ่นๆบริเวณผิวที่สัมผัสกับเครื่องมือ และจะได้ยินเสียงวิ้งๆในขณะที่ทำเนื่องจากเป็นคลื่นวิทยุ
  2. ระยะเวลาในการรับบริการขึ้นอยู่กับตำแหน่งในการรักษา กรณียกกระชับใบหน้า ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที กรณีกระชับสัดส่วน ใช้เวลา 30-60 นาที
  3. ความถี่ในการรักษา โดยทั่วไปจะประมาณ 10 ครั้งขึ้นไป เพื่อได้ผลการรักษาที่ชัดเจน สามารถทำได้1-3 ครั้งต่อสัปดาห์

ข้อดีของการรักษาแบบRF

  • ไม่เจ็บ ไม่ใช่การผ่าตัด ไม่มีการฉีดหรือดูดไขมัน
  • สามารถทำได้ทั้งใบหน้า และลำตัว
  • ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง

ข้อควรระวังในการทำRF

  • ถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะทุกชนิดก่อนเริ่มทำ เพื่อป้องกันการช็อต 
  • ห้ามผู้รับบริการและผู้ให้บริการสัมผัสตัวกัน รวมถึงไม่ควรขยับตัวบ่อย เพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ 
  • ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะทำ เพราะคลื่นจากโทรศัพท์จะรบกวนคลื่นวิทยุทำให้เครื่องมือเสียหายได้

ข้อห้ามใช้สำหรับการกระชับสัดส่วนด้วยคลื่น RF

  • ผู้ที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน หรืออยู่ในช่วง 3 วันก่อนหรือหลังการมีประจำเดือน 
  • ผู้ที่สูญเสียความรู้สึก หรือการรับความรู้สึกบกพร่องหรือช้า
  • ผู้ที่เป็นโรคไต ผู้ที่มีโรคที่เกิดจากระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือด
  • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ และผู้ที่เพิ่งคลอดบุตรมาไม่เกิน 6 เดือน
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นลมชัก
  • ผู้ที่บริเวณที่ต้องการทำมีการอักเสบ แผลถลอก เคยได้รับการผ่าตัดมาไม่ถึง 6 เดือน หรือแผลผ่าตัดยังไม่หายสนิท